อนึ่ง
วิปัสสนาญาณแบ่งออกเป็น ๓ ระดับ คือ
๑. ญาณระดับสูง หมายถึง ภังคญาณเป็นต้นไป
ขณิกสมาธิที่ประกอบด้วยญาณนี้เป็นสมาธิแก่กล้า ดังข้อความในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค
ว่า วยลกฺขณูปฏฐาเนกตฺต (ความตั้งมั่นที่ปรากฏโดยลักษณะดับไป)
และข้อความในคัมภีร์วิสุทธิมรรคที่แสดงเรื่องภังคญาณ
๒. ญาณระดับกลาง หมายถึง อุทยัพพยญาณ ขณิกสมาธิที่ประกอบด้วย
ญาณนี้เป็นสมาธิปานกลาง ดังคัมภีร์วิสุทธิมรรค กล่าวถึงญาณนี้ว่า ตรุณวิปสฺสนา
(วิปัสสนาญาณที่ยังไม่แก่กล้า) และกล่าวถึงผู้ถึงพร้อมด้วยญาณนี้ว่า อารทฺธวิปสฺสก
(ผู้ปรารภวิปัสสนา) ทั้งสอดคล้องกับพระบาลีที่กล่าวถึงองค์คุณของนักปฏิบัติ
(ปธานิยงฺค) ๔ ประการในข้อสุดท้าย ว่าเป็นผู้ตามเห็นความเกิดขึ้นและดับไป
ความจริงแล้วญาณนี้ เป็นวิปัสสนาญาณขั้นแรกในญาณที่แก่กล้าบริบูรณ์
๓. ญาณระดับต่ำ หมายถึง นามรูปปริจเฉทญาณ และปัจจยปริคคหญาณ
ขณิกสมาธิที่ประกอบด้วยญาณนี้เป็นสมาธิขั้นต่ำ อย่างไรก็ตาม นิวรณ์ ๕ ย่อม
ไม่เกิดขึ้นในขณะที่กำหนดรู้สภาวธรรม ในขณะนั้นวิปัสสนาจิตจะหมดจดปราศจากนิวรณ์ ญาณทั้งสองนี้จึงเกิดขึ้นหยั่งเห็นสภาวลักษณะ
คือ ลักษณะเฉพาะของรูปนามได้
แม้ขณิกสมาธิในญาณระดับนี้ก็มีกำลังเทียบเท่ากับอุปจารสมาธิเช่นกัน
มิฉะนั้นแล้วก็ไม่อาจหยั่งเห็นรูปนามตามความเป็นจริง
สมาธินี้จึงจัดเป็นจิตตวิสุทธิซึ่งเกื้อกูลแก่ญาณทั้งสองนั้น
ที่มา
: หนังสือ วิปัสสนานัย เล่มที่ ๑ พระคันธสาราภิวงศ์ วัดท่ามะโอ ลำปาง