วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นิวรณ์ ๕ ประการ

๑. กามฉันทะ ความยินดีพอใจในกาม คือ สิ่งที่น่าชอบใจอันได้แก่รูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย และสัมฝัสอ่อนนุ่ม แม้ความต้องการจะ บรรลุฌาน วิปัสสนา มรรค ผล และนิพพาน ก็จัดเป็นกามฉันทะเช่นเดียวกัน นักปฏิบัติพึงตามรู้สภาวธรรมนี้ว่า “ชอบหนอ”
๒. พยาปาทะ ความหงุดหงิดไม่พอใจโกรธ เกลียด ปองร้าย นักปฏิบัตพึงตามรู้สภาวธรรมนี้ว่า “โกรธหนอ”
๓. ถีนมิทธะ ความง่วงซึมเซา นักปฏิบัติพึงตามรู้สภาวธรรมนี้ว่า ง่วงหนอ”
๔. อุทธัจจกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่านเดือดร้อนใจ นักปฏิบัติพึงตามรู้สภาวธรรมนี้ว่า “คิดหนอ” “ฟังหนอ” หรือ “ร้อนใจหนอ”
๕. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในพระพุทธเจ้าผู้ทรงรู้แจ้งธรรมทั้งปวง สงสัยในพระธรรมคือมรรค ผล และนิพพาน สงสัยในพระอริยสงฆ์ผู้บรรลุธรรม สงสัยในรูปนามที่เกิดจากเหตุคืออวิชชา สงสัยในแนวทางแห่งการปฏิบัติ หรือ สงสัยในคำแนะนำของวิปัสสนาจารย์ เป็นต้น นักปฏิบัตพึงตามรู้สภาวธรรมนี้ว่า “สงสัยหนอ”
เมื่อนักปฏิบัติตามรู้กามฉันทะเป็นด้น จนกระทั่งสงบไปด้วยการกำหนด หนึ่งครั้งหรือหลายครั้งตามสมควรแล้ว พึงตามรู้จิตที่ผ่องใสปราศจากกามฉันทะ โดยกำหนดว่า “รู้หนอ” แม้พยาปาทะเป็นต้นก็มีนัยเดียวกัน

ที่มา : หนังสือ วิปัสสนานัย เล่มที่ ๑ พระคันธสาราภิวงศ์ วัดท่ามะโอ ลำปาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น